ห่วงใยเพื่อนร่วมทาง ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไรดี

ช่วงนี้เป็นฤดูฝน มีฝนตกหนักจนน้ำท่วมขัง ดังนั้นผู้ใช้รถไม่ควรมองข้ามการตรวจสภาพของยางรถยนต์ เพราะล้อและยางก็เหมือนเท้าของรถ หากชำรุดหรือเสื่อมสภาพย่อมส่งผลเสียต่อการเดินทาง  และที่เป็นคำถามที่ผู้ใช้ร5ยนต์หลายๆ คนสงสัยว่าควรจะเปลี่ยนยางเมื่อไร? เพราะถ้าเปลี่ยนยางเร็วก็เปลืองเงิน ช้าไปก็กลัวอันตราย เรามักจะได้รับคำแนะนำจากช่างว่าให้เปลี่ยนทุกๆ 2 ปี หรือที่ระยะ 50,000 กิโลเมตร แต่ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ๆ หลายรายไม่ได้ระบุเช่นนี้  โดยในการใช้งานจริงๆ คงไม่สามารถใช้ระยะทางมาเป็นเกณฑ์อย่างเดียวได้ เนื่องจากการบรรทุก ความเร็ว สภาพถนน รวมถึงพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มีผลต่ออายุการใช้งานของยางรถยนต์ทั้งสิ้น  จากการศึกษาและประสบการณ์ พอจะสรุปปัจจัยที่ควรเปลี่ยนยางได้ดังนี้

  1. ควรเปลี่ยนยางเมื่อดอกยางสึกถึงสะพานยาง(เหลือความลึกดอกยางประมาณ 1.6 มม) สามารถสังเกตง่ายๆ ได้จาก จุดสามเหลี่ยมเล็กๆ บนไหล่ยางแต่ละด้าน เมื่อเจอสัญลักษณ์นี้แล้วให้มองตรงขึ้นไปที่หน้ายาง และมองลึกลงไปที่ร่องดอกยาง ก็จะพบสันนูนที่ร่องยาง ซึ่งเรียกว่า “สะพานยาง” ดังรูปที่ 1 และเมื่อไหร่ที่ดอกยางสึกไปถึงสะพานยาง ดังรูปที่ 2 นั่นแสดงว่ายางหมดอายุการใช้งาน ก็ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ได้ทันที ไม่ควรใช้งานต่อไป เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดอกยางที่เหลือน้อย ร่องยางตื้น จะทำให้ประสิทธิภาพในการเบรกและการรีดน้ำน้อยลง ทำให้รีดน้ำออกจากหน้ายางไม่ทันขณะขับขี่ ส่งผลทำให้เกิดการเหินน้ำ ไม่ยึดเกาะถนนที่มีน้ำขัง  โดยเฉพาะการขับขี่รถยนต์บนพื้นถนนที่เปียกลื่น จะทำให้รถยนต์เสียการทรงตัวบนท้องถนน

  1. ควรเปลี่ยนยางเมื่อยางที่ได้รับความเสียหายจากเหตุใดเหตุหนึ่งดังต่อไปนี้ ซึ่งไม่สามารถซ่อมแซมได้ เช่น การถูกบาดตำบริเวณแก้มยาง, เส้นลวดบริเวณขอบยางแทงทะลุออกมาด้านนอกหรือยางบวมบิดเบี้ยวเสียรูป, เนื้อยางหรือเส้นใยโครงสร้างยางแยกตัวออกจากกัน, เกิดรอยยับ/พับที่เนื้อยางหรือเส้นใยโครงสร้างยาง, ยางได้รับความเสียหายจากสารไฮโดรคาร์บอน หรือจากการกัดกร่อนของสารเคมีหรือสารอื่นใด เป็นต้น ดังรูปที่ 3

รูปที่ 3  ยางที่ได้รับความเสียหาย

หากมีเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนยางเส้นใดเส้นหนึ่งก่อนอายุ เพื่อให้ประสิทธิภาพการใช้งานของยางดีที่สุดควรเปลี่ยนยางทั้ง 4 เส้น แต่ถ้าหากยังไม่สะดวกที่จะเปลี่ยนยางทั้ง 4 เส้น ก็ควรเปลี่ยนยางครั้งละ 2 เส้นที่อยู่บนเพลาเดียวกัน เช่น เปลี่ยนยางหน้าซ้าย-ขวา หรือ เปลี่ยนยางหลังซ้าย-ขวา ในเวลาเดียวกันและยางเส้นใหม่ควรติดตั้งที่ตำแหน่งล้อขับเคลื่อนหลัก เช่น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหน้าให้เอายางใหม่ไว้ที่ล้อหน้า หรือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนล้อหลังก็ให้เอายางใหม่ไว้ที่ล้อหลัง
การยืดอายุยางรถยนต์ 
การเปลี่ยนยางแต่ละครั้งต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากเปลี่ยนยางบ่อย สามารถยืดอายุการใช้งานของยางได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ 

  1. สังเกตสภาพยางด้วยตาเปล่าว่ามีรอยรั่วหรือรอยฉีกขาดหรือไม่ หากมีให้รีบซ่อมแซม อย่าปล่อยไว้นาน
  2. เช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ให้ลมยางได้ตามค่าที่คู่มือรถแต่ละรุ่นกำหนดไว้ ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อให้ยางมีความยืดหยุ่นพอดีขณะขับขี่
  3. สลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพื่อให้ยางทุกล้อมีการสึกหรอใกล้เคียงกัน
  4. ตั้งศูนย์ถ่วงล้อให้คงความสมดุลอยู่เสมอ
  5. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับรถ เช่น ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูงเป็นเวลานานเกินไป ไม่ออกตัว หรือเบรกกะทันหัน ไม่บรรทุกของหนักเกิน เป็นต้น

อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานสูงสุดของยางไม่ควรเกิน 5 ปี (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน) หากยางที่ใช้มีอายุครบ 10 ปี นับจากวันผลิตยาง แนะนำให้เปลี่ยนยางใหม่ตามมาตรการป้องกันล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย

อ้างอิง

http://www.michelin.co.th

http://www.bridgestone.co.th

http://www.goodyear.co.th

https://www.autospinn.com


เขียน / เรียบเรียงเรื่องโดย: 
ผศ.ว่าที่ ร.ต.ชัยยง ศิริพรมงคลชัย สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล ศูนย์นนทบุรี

จัดทำโดย:
นางสาวดารุณี เวียงแกสินทรัพย์



Tag : #RUS #คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ #ควรเปลี่ยนยางรถยนต์เมื่อไรดี #มทรสุวรรณภูมิ





4 ครั้ง

Address
คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ
เลขที่ 217 ภ.นนทบุรี ต.สวนใหญ์ อ.เมืองนนทบุรี
จ.นนทบุรี 11000
งานบริหารและพัฒนาระบบ โทรศัพท์ 02-149-9091
งานวิชาการและวิจัย โทรศัพท์ 02-149-9092,086-999-0359
งานพัฒนานักศึกษา โทรศัพท์ 02-149-9093
การให้บริการ

สถิติการเข้าชม
  • วันนี้ : 124 ครั้ง
  • เดือนนี้ : 28761 ครั้ง
  • ปีนี้ : 266832 ครั้ง
  • ทั้งหมด : 670128 ครั้ง
Follow Us

Copyright ©2020 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ | มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ